บทที่ 5
หน่วยความจำรอง (Second Memory)
หรือหน่วยความจำภายนอก
(External Memory) เป็นหน่วยความจำที่ต้องอาศัยสื่อบันทึก
ข้อมูลและอุปกรณ์รับ-ส่งข้อมูลชนิดต่างๆ ได้แก่
1.ฮาร์ดดิสก์
(Hard Disk)
ฮาร์ดดิสก์ (Hard
Disk) เป็นฮาร์ดแวร์ที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งโปรแกรมใช้งานต่างๆ
ไฟล์เอกสาร รวมทั้งเป็นที่เก็บระบบปฏิบัติการที่เป็นโปรแกรมควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย
2.ฟลอบปี้ดิสก์(Floppy
Disk)
ฟลอปปี้ดิสก์ นิยมเรียกโดยทั่วไปว่า ดิสก์เกตต์ ( diskettes) หรือดิสก์ ( disks) เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำรองที่สามารถพกพาและเคลื่อนย้ายได้สะดวก
ฟลอปปีดิสก์ ในรุ่นแรก ๆจะมีขนาด 8นิ้ว และ 5.25
นิ้ว แต่ปัจจุบันนิยมใช้ขนาด 3.5
นิ้วแต่เดิมฟลอปปีดิสก์เรียกว่า ฟลอปปี ( floppies) เพราะดิสก์มีลักษณะที่บางและยืดหยุ่น
แต่ปัจจุบันลักษณะของดิสก์ได้พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ เป็นดิสก์ที่หุ้มด้วยแผ่นพลาสติกแข็ง
แต่เนื้อดิสก์ภายในยังคงอ่อนเหมือนเดิม จึงเรียก ฟลอปปี้เช่นเดิม
3.ซีดี (Compact Disk - CD)
ซีดี (Compact Disk - CD) เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลแบบดิจิทัล เป็นสื่อที่มีขนาดความจุสูง
เหมาะสำหรับบันทึกข้อมูลแบบมัลติมีเดีย ซีดีรอมทำมาจากแผ่นพลาสติก กลมบางที่เคลือบด้วยสารโพลีคาร์บอเนต (Poly Carbonate) ทำให้ผิวหน้าเป็นมัน
สะท้อนแสง
โดยมีการบันทึกข้อมูลเป็นสายเดียว (Single Track) มีขนาด เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 120 มิลลิเมตร
ปัจจุบันมีซีดีอยู่หลายประเภท ได้แก่ ซีดีเพลง (Audio CD) วีซีดี
(Video CD - VCD) ซีดี-อาร์
(CD Recordable - CD-R) ซีดี-อาร์ ดับบลิว (CD-Rewritable - CD-RW) และ ดีวีดี (Digital Video Disk - DVD
4.รีมูฟเอเบิลไดร์ฟ (Removable Drive)
รีมูฟเอเบิลไดร์ฟ (Removable Drive) เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ไม่ต้องมีตัวขับเคลื่อน(Drive)
สามารถพกพาไปไหนได้โดยต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย
Port USB ปัจจุบันความจุของ
รีมูฟเอเบิลไดร์ฟมีตั้งแต่ 2, 4 , 8 , 16 , 32 กิกะไบต์ ทั้งนี้ยังมีไดร์ฟลักษณะเดียวกัน เรียกในชื่อ อื่นๆ ได้แก่ Pen Drive , Thump
Drive , Flash Drive
5.ซิบไดร์ฟ (Zip Drive)
ซิบไดร์ฟ (Zip Drive) เป็นสื่อบันทึกข้อมูลที่จะมาแทนแผ่นฟล็อปปี้ดิสก์ มีขนาดความจุ 100
เมกะไบต์
ซึ่งการใช้งานซิปไดร์ฟจะต้องใช้งานกับซิปดิสก์ (Zip Disk) ความสามารถในการ
เก็บข้อมูลของซิปดิสก์จะเก็บข้อมูลได้มากกว่าฟล็อปปี้ดิสก์
6.Magnetic optical Disk Drive
Magnetic optical Disk
Driveเป็นสื่อเก็บข้อมูลขนาด3.5นิ้ว
ซึ่งมีขนาดพอๆ กับฟล็อบปี้ดิสก์ แต่ขนาดความจุมากกว่า เพราะว่า MO Disk drive 1 แผ่นสามารถบันทึกขัอมูลได้ตั้งแต่ 128 เมกะไบต์
จนถึงระดับ 5.2กิกะไบต์
เทปแบ็คอัพ (Tape Backup) เป็นอุปกรณ์สำหรับการ Backup ข้อมูลโดยเฉพาะ
interfaceส่วนใหญ่ เป็นแบบ SCISI II, Ultra SCISI ซึ่งเหมาะกับการสำรองข้อมูลขนาดใหญ่มาก ๆ ขนาดระดับ 10-100 GB โดยส่วนใหญ่จะใช้สำรองข้อมูลในหน่วยงาน บริษัท ต่าง ๆ เพราะว่าผู้ใช้โดยทั่วไปคงไม่มีความจำเป็นถึงกับต้องการสำรองข้อมูลที่ใหญ่
ขนาดนั้น เพราะราคาเครื่องเริ่มต้นค่อนข้างสูงพอสมควร แต่ราคาของตัว Tape ที่นำมา Backup
นั้นราคาต่อขนาดแล้วค่อนข้างต่ำกว่าสื่อสำรองข้อมูลแบบอื่น ๆ
เพราะฉะนั้น Tape
backup นี้ยังคงไดัรับความนิยมในการนำมาใช้สำรองข้อมูล ขนาดใหญ่ ๆ
8.การ์ดเมมโมรี (Memory Card)
การ์ดเมมโมรี (Memory
Card) แผ่นเก็บบันทึกภาพที่มีหน่วยความจำเป็น MB เมกะไบท์ โดยทั่วไปความสามารถในการเก็บบันทึกภาพจะขึ้นกับความละเอียดของภาพที่ตั้งค่าเอาไว้ใน
กล้องดิจิตอล เช่นMemory
card ความจุ 16
MB สามารถเก็บบันทึกภาพขนาด 5 MP ได้ 6 – 11 รูป เป็นต้น
สรุป
หลายๆคนอาจคุ้นเคยกับหน่วยความจำภายนอก
หรือบางทีเราก็หมายถึงหน่วยความจำสำรองด้วยค่ะ เรามาทำความรู้จักกับอุปกรณ์ที่ว่านี้กันนะคะ
และอันดับแรกที่อยากจะแนะนำคือ ฮาร์ดดสก์ (Hard disk)
รูปแบบของหน่วยความจำที่ถูกที่สุดและใช้กันอย่างกว้างขวางทุกวันนี้คือ
ฮาร์ดดิสค์ มีหลักการทำงานคล้ายกับฟลอปปีดิสก์
แต่ฮาร์ดดิสค์ทำมาจากแผ่นโลหะแข็งเรียกว่า Platters ทำให้เก็บข้อมูลได้มากและทำงานได้รวดเร็ว
ส่วนมากจะถูกยึดติดอยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์
แต่มีบางรุ่นที่เป็นแบบเคลื่อนย้ายได้
โดยจะเป็นแผ่นแม่เหล็กเพียงแผ่นเดียวอยู่ในกล่องพลาสติกบางๆ
สามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ 1กิกะไบต์ขึ้นไป Virtual
memory จะเป็นวิธีในการนำพื้นที่ของหน่วยเก็บข้อมูลสำรอง
(ส่วนมากจะเป็นฮาร์ดดิสก์) มาจำลองเป็นหน่วยความจำ
เนื่องจากหน่วยความจำของระบบมีจำกัดและมีราคาสูง
การใช้หน่วยความจำเสมือนจะทำให้สามารถทำงานกับโปรแกรมขนาดใหญ่มาก ๆ ได้
ดดยไม่มีปัญหาเรื่องหน่วยความจำไม่เพียงพอ
ระบบการทำงานของหน่วยความจำเสมือนจะใช้วิธีแบ่งโปรแกรมออกเป็นส่วน ๆ
และคอมพิวเตอร์จะทำการ
สลับส่วนของโปรแกรมที่ยังไม่ได้ใช้ลงไปยังหน่วยเก็บข้อมูลสำรอง
และทำการสลับกลับมาในหน่วยความจำหลักเมื่อจำเป็นต้องใช้งาน
หลักการของหน่วยความจำเสมือนทำให้สามารถทำงานกับโปรแกรมที่ต้องการใช้ไม่ต่ำกว่า 6
MB บนเครื่องที่มีแรมเพียง 4
MB RAID เป็นข้อกำหนดในการใช้ฮาร์ดดิสก์จำนวนหนึ่งมาประกอบกัน
เพื่อช่วยเพิ่มคุณสมบัติในเรื่องของความทนทานต่อข้อผิดพลาดให้กันระบบคอมพิวเตอร์
ซึ่งแบบแผนของระบบ RAID มีอยู่หลายระดับ
โดยที่ได้รับความนิยมใช้งานในปัจจุบันคือ RAID-0 ใช้วิธีการทำ Data
striping นั่นคือแบ่งแฟ้มเขียนลงไปบนดิสก์หลายๆตัว
โดยไม่ซ้ากัน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธภาพของฮาร์ดดิสก์ RAID-1
จะใช้ฮาร์ดดิสก์เป็นคู่ในการเขียนข้อมูลที่เหมือนกันทุกประการลงไปในฮาร็ดดิสก์ทั้งคู่
RAID-3 คล้ายกัน
RAID-0 แต่จะใช้ฮาร์ดดิสก์อีกตัวในการเก็บข้อมูลสำหรับแก้ไขข้อผิดพลาด
RAID-5 เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุด
โดยจะทำ Data striping และจะเก็บข้อมูลสำหรับแก้ไขข้อผิดพลาดลงในทุกๆฮาร์ดดิสก์
ทำให้มีประสิทธภาพสูง และป้องกันข้อผิดพลาดได้ดี RAID-10 บางครั้งเรียกว่า RAID-0+1
เนื่องจากใช้หลักการของ RAID-0
และ RAID-1 มารวมกัน
ทำให้ได้ประสิทธิภาพและป้องกันการผิดพลาดได้ดี แต่ค่าใช้จ่ายก็จะสูงที่สุด
ออปติคัสดิสก์ (Optical Disk) มีหลักการทำงานคล้ายกับการเล่นซีดีเพลง
คือใช้เทคโนโลยีของแสงเลเซอร์
ทำให้สามารถเก็บข้อมูลได้จำนวนมหาศาลในราคาไม่แพงมากนัก
ในปัจจุบันมีอยู่หลายแบบซึ่งใช้เทคโนโลยีต่างกันไป เช่น CD-ROM
อ่านข้อมูลได้เพียงอย่างเดียว
ไม่สามารถแก้ไข หรือลบข้อมูลในแผ่น CD ได้ CD-R เป็น CD ที่สามารถเขียนข้อมูลหรือ write
ที่เรียกว่าการ burning
ได้ครั้งเดียว สามารถอ่านได้หลายคร้ง
แต่ไม่สามารถลบข้อมูลได้ ปัจจุบันมีความจุตั้งแต่ 650 MB ขึ้นไป CD-RW คล้ายกับ CD-R ต่างกันตรงที่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้
คือสามารถอ่านเขียน ข้อมูลเพิ่มได้หลายครั้ง DVD สามารถบันทึกข้อมูลได้สูงถึง 4.7
GB ขึ้นไป ซึ่งปัจจุบัน สามารถบันทึกข้อมูลได้
ถึง 17 GB เทปแม่เหล็ก
(Magnetic Tape) เป็นหน่วยความจำสำรองแบบ
magnatic รุ่นแรก
ๆ ที่มีการใช้ที่มีการใช้แม่เหล็กเคลือบบนแถบพลาสติกและพันรอบม้วนเทป 2
ม้วน โดยทั่วไปมี 2
รูปแบบใหญ่ ๆ คือ reel-to-reel
และ cartridge โดยทั่วไปมีความยาวหลายพันฟุต
และมักใช้กับระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ เช่น ระบบเมนเฟรม สำหรับ reel-to-reel
จะมีขนาดใหญ่และความยาวกว่ามาก ข้อดี คือ
ราคาไม่แพง และมีการทำงานที่เชื่อถือได้เหมาะกับการสำรองข้อมูล ข้อเสีย คือ
ทำงานช้าเพราะการเข้าถึงข้อมูลเป็นแบบตามลำดับ ซึ่งจะต้องกรอเทปกลับ
หรือไปข้างหน้า ในขณะที่อัตราการเคลื่อนย้ายข้อมูลสามารถถูกทำให้เพิ่มขึ้นได้โดยการเพิ่มความเร็วของเทป
แหล่งข้อมูล
https://sites.google.com/site/kroonom/hnwy-khwam-ca-rxng
http://www.vcharkarn.com/varticle/32742
ค้นหาเมื่อ 14/11/2558
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น